[Verse 1: KQ]
เราศรัทธาในสิ่งที่ไร้ซึ่งตัวตน
เพราะความฟุ้งซ่านที่มันระเบิดเกิดหวาดระแวงและกลัวคน
เมื่อความกระจ่างมันมัวลง
มันไม่มีทางจะดึงสวะขี้โคลนให้มันออกมาจากบัวตม
เลี่ยงความประมาทเพียงแค่ว่าฉันอาจจะกลัวตาย
สติปัญญาหยั่ง มันอาจไม่มีวัวควาย
ขณะที่คนเครียด แต่มันเหล่านั้นยังยิ้มได้
เลยถอดเขามาสวมหัว แล้วเธอเหล่านั้นก็ทิ้งไป
ตื่นในความฝัน และผลอยหลับในความจริง
เหมือนกับพระอรหันต์ ที่เกิดกระสันในความซิง
สะดุ้งกับคำสบถที่ตบหูกูดังวิ้ง
กูเลยสวนกลับไป Hey! do you want some thing?
อากาศที่มันร้อนร้อนลองนั่งนิ่งนิ่งแล้วใจเย็นๆ [?]
สูดสติสไตล์ละมุนคุณไม่ต้องกลัวใครจะประเคนหำ
หลากอารมณ์คนล้วนผ่านมาแล้วจากไป
สัมผัสลมที่ผิวแผ่ว ที่ไม่ได้มาจากปากใคร
[Chorus: MINMI]
Mata yo ga akereba owakare
Yume wa tooki maboroshi ni
Anata wo oikaketeita hikari no naka de
Dakareru tabi atatakai kaze wo tayori
[Verse 2: AWAKEN]
เมื่อยามที่ฝนตกลงมา
มันอาจจะทำให้มองไม่เห็นทาง
แต่มันมักจะมากับความเชื่อ
เพราะเมื่อหลังพายุฝนได้พัดผ่าน
ความเลือนลาง บนหนทาง จะกระจ่างสว่างในดวงตา
แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครหยั่งรู้
และไม่มีใครอยากจะรู้หรอก ความจริง
เพราะบางสิ่งมันโหดร้าย เหมือนโดนคนรักโกรธโมโหร้าย
เหมือนกับอกหัก ความรักแตกสลาย
แต่ไม่เห็นจะเป็นอะไรไปเลยสหาย
ถึงฟ้าฝนไม่เปิดทางแต่มองไปข้างๆกาย
ยังคงมีพวกพ้อง และมีบีทให้กู่ร้อง
ยังคงมีท้องฟ้า และอนาคตให้ท้าทาย
และสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงความว่างเปล่า
หลังพายุฝนที่หล่นลงมาเพียงชั่วคราว
ไม่มีเธอไม่มีเรา ความรักเป็นเหมือนเงา
กูปล่อยให้มันวิ่งตาม เผชิญกับทางที่ไม่อาจคาดเดา
เราศรัทธาในสิ่งที่ไร้ซึ่งตัวตน
เพราะความฟุ้งซ่านที่มันระเบิดเกิดหวาดระแวงและกลัวคน
เมื่อความกระจ่างมันมัวลง
มันไม่มีทางจะดึงสวะขี้โคลนให้มันออกมาจากบัวตม
เลี่ยงความประมาทเพียงแค่ว่าฉันอาจจะกลัวตาย
สติปัญญาหยั่ง มันอาจไม่มีวัวควาย
ขณะที่คนเครียด แต่มันเหล่านั้นยังยิ้มได้
เลยถอดเขามาสวมหัว แล้วเธอเหล่านั้นก็ทิ้งไป
ตื่นในความฝัน และผลอยหลับในความจริง
เหมือนกับพระอรหันต์ ที่เกิดกระสันในความซิง
สะดุ้งกับคำสบถที่ตบหูกูดังวิ้ง
กูเลยสวนกลับไป Hey! do you want some thing?
อากาศที่มันร้อนร้อนลองนั่งนิ่งนิ่งแล้วใจเย็นๆ [?]
สูดสติสไตล์ละมุนคุณไม่ต้องกลัวใครจะประเคนหำ
หลากอารมณ์คนล้วนผ่านมาแล้วจากไป
สัมผัสลมที่ผิวแผ่ว ที่ไม่ได้มาจากปากใคร
[Chorus: MINMI]
Mata yo ga akereba owakare
Yume wa tooki maboroshi ni
Anata wo oikaketeita hikari no naka de
Dakareru tabi atatakai kaze wo tayori
[Verse 2: AWAKEN]
เมื่อยามที่ฝนตกลงมา
มันอาจจะทำให้มองไม่เห็นทาง
แต่มันมักจะมากับความเชื่อ
เพราะเมื่อหลังพายุฝนได้พัดผ่าน
ความเลือนลาง บนหนทาง จะกระจ่างสว่างในดวงตา
แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครหยั่งรู้
และไม่มีใครอยากจะรู้หรอก ความจริง
เพราะบางสิ่งมันโหดร้าย เหมือนโดนคนรักโกรธโมโหร้าย
เหมือนกับอกหัก ความรักแตกสลาย
แต่ไม่เห็นจะเป็นอะไรไปเลยสหาย
ถึงฟ้าฝนไม่เปิดทางแต่มองไปข้างๆกาย
ยังคงมีพวกพ้อง และมีบีทให้กู่ร้อง
ยังคงมีท้องฟ้า และอนาคตให้ท้าทาย
และสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงความว่างเปล่า
หลังพายุฝนที่หล่นลงมาเพียงชั่วคราว
ไม่มีเธอไม่มีเรา ความรักเป็นเหมือนเงา
กูปล่อยให้มันวิ่งตาม เผชิญกับทางที่ไม่อาจคาดเดา
Comments (0)
The minimum comment length is 50 characters.